นาฬิกา Casio ระบบ Quartz เที่ยงตรงราคาไม่แพง

IMG_20240509_101059_792

Casio เป็นผู้ผลิตนาฬิกาสัญชาติญี่ปุ่น มีชื่อเสียงมาจากการผลิตนาฬิกาตัวเลขดิจิทัลราคาไม่แพง ใช้งานได้ยาวนาน และเริ่มพัฒนาไปสู่รุ่น G-shock ที่แข็งแกร่งถึกทนที่สุดในโลกจนได้รับความนิยมอย่างมาก ส่วนนาฬิกาแบบเข็มใช้ระบบการทำงานแบบ Quartz ก็มีให้เลือกซื้อหลายแบบ จุดเด่นของ Casio คือราคาไม่แพง คุณภาพสูง อย่างนาฬิกาเรือนนี้ก็เป็นรุ่นราคาประหยัดของยี่ห้อนี้ แต่ก็มีความสวยงาม แข็งแรง สายโลหะ กันน้ำได้ รุ่นนี้ชื่อ MTP-VD01D-2B

DSC02478

สั่งซื้อในอินเทอเน็ตราคาโปรโมชั่นลดลงไปแรงมาก พอเห็นว่าราคาไม่แพงก็กลัวจะเป็นของปลอม แต่จากการสอบถามเพื่อนที่เคยซื้อสินค้า Casio จากร้านตัวแทนอย่างเป็นทางการมาก่อนก็พอจะมั่นใจได้ว่าได้ของแท้ กล่องบรรจุสินค้าที่ส่งมา มีคู่มือ บัตรรับประกัน และมีสติ๊กเกอร์ CMG ติดอยู่ที่ด้านหลังนาฬิกา หลักฐานเอกสารมีครบตามโพย ก็เชื่อว่าเป็นของแท้

IMG_20240507_163455

นาฬิกาเรือนใหญ่มาก เหมาะกับข้อมือผู้ชายตัวโต ไม่เหมาะกับเด็ก สายโลหะมันวาวให้มายาวมาก ต้องไปหาร้านช่วยตัดสายให้พอดีข้อมือ ราคาที่เห็นในเว็บของเซ็นทรัลก็อยู่ประมาณ 14xx – 17xx บาท แต่ซื้อจากออนไลน์ในเว็บมาเก็ตเพลสชื่อดังก็ได้ราคาที่ถูกมาก

สนใจสั่งซื้อได้ที่นี่ https://shope.ee/A9vAv3RdPW

ข้อมูลตัวเครื่อง

• ขนาดตัวเรือน (ก x ย x ส) 49 × 45 × 10.3 มม.
• น้ำหนัก 118 กรัม
• สายสเตนเลสสตีล
• ตัวล็อคพับสามทบ
• กันน้ำลึก 50 เมตร
• แหล่งพลังงานและอายุการใช้งานแบตเตอรี่: อายุการใช้งานแบตเตอรี่ประมาณ: 3 ปี
• ถ่านกระดุม SR626SW
• กระจก: กระจกมิเนอรัล
• ความแม่นยำ: ±20 วินาทีต่อเดือน
• บอกเวลาปกติแบบทั่วไป: 3 เข็ม (ชั่วโมง นาที วินาที)
• แสดงวันที่
• รับประกัน 1 ปี

IMG_20240507_162943
IMG_20240507_161829

ถ้าคุณอยากได้นาฬิกาที่เดินได้เที่ยงตรงที่สุดเท่าที่มีขายสำหรับคนทั่วไป นาฬิการะบบควอตซ์คือคำตอบที่ถูกต้องที่สุด เพราะความเที่ยงตรงระดับผิดพลาดไม่กี่วินาทีต่อเดือนเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมสำหรับแสดงเวลา นาฬิกาที่ใช้ระบบอื่นอย่างเช่น ระบบออโตเมติก หรือ แม้แต่ระบบไขลาน ก็ยังมีควมคลาดเคลื่อนหลายวินาทีต่อวัน ซึ่งทำให้ผ่านไปแต่ละเดือนเวลาอาจจะคลาดเคลื่อนไปหลายนาทีหรือเกือบครึ่งชั่วโมงก็เป็นไปได้ ลองอ่านข้อมูลเปรียบเทียบระบบควอตซ์กับออโตเมติกได้ที่นี่

สนใจสั่งซื้อได้ที่นี่ https://shope.ee/A9vAv3RdPW

ทำความรู้จักกับระบบบ้านอัจฉริยะ หรือ Smart Home

สำหรับคนที่ชื่นชอบในเรื่องเทคโนโลยี ทุกคนน่าจะเคยได้ยิน […]

ทำความรู้จักกับระบบบ้านอัจฉริยะ หรือ Smart Home

เก้าอี้สำนักงานราคาถูก อายุสั้น

เก้าอี้สำนักงานราคาประหยัด หน้าตาพอใช้ได้ ผมทดลองซื้อมาใช้เมื่อเดือนมีนาคม 2566 ด้วยความอยากรู้ว่าของที่ถูกมากๆจะมีคุณภาพเป็นอย่างไร เก้าอี้ราคานี้ต้องประกอบเองด้วย วิธีประกอบค่อนข้างยากสำหรับคนไม่เคยประกอบเองเลย ผมใช้เวลาประกอบไปสองชั่วโมงกว่า แถมยังประกอบผิดไปหลายครั้งด้วย ต้องรื้อแล้วประกอบใหม่

th-11134207-7qul7-lfvzsilberkf5e

หลังจากใช้งานมา 13 เดือน ก็พบกับอาการเสีย โช๊คยุบ สเป็ครองรับน้ำหนัก 100 กิโลกรัม ผมหนัก 85 เก้าอี้ไม่สามารถรับน้ำหนักคนนั่งได้ ซึ่งเวลา 12 เดือนก่อนจะเสียก็ทำงานได้ปกติ แต่เมื่อเสียแล้วโช้คไม่สามารถรับแรงได้เลย เวลาปรับสูงแล้วนั่งทับ เก้าอี้จะยุบตัว ตั้งใจว่าจะหาอะไหล่มาเปลี่ยน แต่ก็ไม่รู้ขนาด ไม่รู้หมายเลข ราคาค่าตัวเก้าอี้ทั้งตัวอยู่ที่ประมาณ 400-500 บาทแล้วแต่เว็บไซต์ อะไหล่ชิ้นที่เป็นโช้คในเว็บก็มีหลายขนาด ผู้ขายก็หลายราย ราคาเกือบจะครึ่งนึงของเก้าอี้ สภาพเบาะยังดี ล้อยังดี ทุกอย่างดียกเว้นโช้ค แบบนี้จะทิ้งก็เสียดาย จะซ่อมก็ไม่รู้ว่าต้องซื้ออะไหล่ตัวไหน (ระหว่างนี้กำลังหาคำตอบเรื่องหาซื้ออะไหล่ ถ้าได้ชิ้นอะไหล่ที่ถูกต้องจะมาอัพเดทโพสท์นี้อีกครั้ง)

โช้คเก้าอี้ซื้อที่นี่ https://shope.ee/4VGdSSv27O

เก้าอี้ซื้อที่นี่ https://shope.ee/4VGdScHrfy

ของที่ราคาถูกเกินไปก็จะใช้ไม่ค่อยทน ถ้าต้องซื้อใหม่ปีละตัวก็ดูจะเปลืองเนื้อที่ เปลืองขยะต่อโลก การหาซื้อเก้าอี้ทำงานที่ดีมีคุณภาพ สามารถใช้ได้นานหลายปีเป็นเรื่องที่ดีกว่าการเน้นซื้อแบบราคาถูก และการทิ้งสิ่งของขนาดใหญ่เป็นภาระต่อชีวิตมาก เพราะเราเอาใส่ถังขยะไปวางไว้ให้รถขยะเก็บไม่ได้ ประเทศเราถึงเห็นเก้าอี้ โซฟา โต๊ะ ตู้ ตุ๊กตาตัวใหญ่ๆกองอยู่ข้างถนนเป็นประจำ

IMG_7217
IMG_20231204_150724

ประสบการณ์การใช้เก้าอี้คุณภาพสูง Herman Miller Aeron Chair

ประสบการณ์การใช้เก้าอี้คุณภาพสูงอีกตัว Herman Miller Sayl Chair

วิธีแก้ไข Printer Error 0x00000709 Window 11 และ 10

ที่ทำงานซื้อเครื่องพิมพ์ inkjet มาใช้งาน เป็นรุ่น hp ink tank 315 ซึ่งเป็นเครื่องที่ต่อกับคอมพิวเตอร์ได้แค่ทางสาย usb เท่านั้น ต้องต่อกับคอมฯตัวหลักแล้วแชร์ให้คนอื่นในเน็ตเวิร์คใช้ เครื่องวินโดวส์อื่นๆในอ๊อฟฟิศทำงานได้ปกติ สามารถเพิ่มเครื่องพิมพ์ใหม่ได้ แต่เครื่องคอมฯของผมเอง โน้ตบุ๊ค asus วินโดส์11 ไม่สามารถทำได้

ปัญหาคือ ตอน add printer ตัววินโดส์หาไม่เจอ ตอนคลิกที่ my network คลิกไปที่เครื่องคอมฯที่แชร์ได้ คลิกไปที่โฟลเดอร์ในเครื่องแชร์ได้ แต่คลิกไปที่เครื่องพิมพ์ไม่ได้ วินโดส์แจ้ง error ตามภาพใน youtube เลยหาวิธีแก้ไข และเจอวิธีการ ขอบคุณเจ้าของคลิปที่ช่วยแก้ปัญหาครับ

ผมแปลกใจที่ทำไมวินโดส์ต้องเพี้ยนและมั่ว ทั้งที่เป็นวินโดส์แท้ เครื่องอื่นดูไม่มีปัญหาเลย แต่เครื่องที่ผมใช้ดันมีปัญหา จริงๆปัญหาของโน้ตบุ๊คเครื่องนี้มีอีกหลายอย่างที่ไม่ปลื้ม ในอนาคตจะไม่ซื้อยี่ห้อนี้แล้ว ย้อนไปดูรีวิวตัวนี้ได้ที่นี่

เปลี่ยนไฟหรี่หน้า ฮอนด้าฟรีด Honda Freed

เปลี่ยนไฟหรี่หน้า ฮอนด้าฟรีด Honda Freed

20240423161911_IMG_1984
Screen Shot 2567-04-23 at 16.33.35
Screen Shot 2567-04-23 at 16.33.12

ไฟหรี่ด้านหน้า ฮอนด้าฟรีด เป็นหลอดไส้ชนิด t10 สเป็คหลอดที่ใช้ได้คือ 12v5w เป็นหลอดไฟขนาดเล็ก เวลาหาซื้อในเว็บมักจะเจอว่าขายทีละ 10 หลอด เวลาไฟหรี่เสียมันก็ดับไปเลย แล้วด้านซ้ายขวาจะเสียไม่พร้อมกัน หากหาซื้อมาเปลี่ยนก็ซื้อเกินไว้เผื่อเปลี่ยนหลายๆครั้งก็ได้ ราคาไม่แพง

ซื้อได้ที่นี่ https://shope.ee/2foeYQaHhV

ดูหลอดไฟทั้งหมดที่ใช้กับรถฮอนด้าฟรีดที่นี่

อ่านหนังสือ เทียบกับดูหนัง April come she will

ข่วงหยุดยาวสงกรานต์ปีนี้เป็นปีที่ได้หยุดประมาณ 7 วัน ได้ใช้เวลากินและนอนกันจนอิ่มเลย และมีโอกาสได้ลองดูโปรแกรมหนัง พบว่ามีหนังเรื่องหนึ่งน่าสนใจ เป็นหนังญี่ปุ่น ชื่อไทยว่า เมษายนพาใครบางคนกลับมา ชื่ออังกฤษคือ April come she will.

messageImage_1713145065624

ดูใบปิดหนังก็คิดไปแล้วว่าน่าจะเป็นเรื่องของความรักและการถ่ายรูป ยิ่งดูโฆษณา ก็มีตัวอย่างหนังที่มีกิจกรรมถ่ายรูป มีวิวสวยมาก ตัดสินใจทันทีว่าจะเข้าไปดูหนังเรื่องนี้ในช่วงหยุดยาว ลองใช้เวลาตะลุยอ่านรีวิวเกี่ยวกับหนังตัวนี้ ก็เลยพบว่า มันเป็นหนังสือมาก่อน ขายดีในญี่ปุ่นจนมีการแปลไปหลายประเทศ และมีภาษาไทยแล้วด้วย

dpp-14apr2024-IMG_9063

เดินห้างผ่านร้านหนังสือก็เลยจัดมาเล่มนึง เพราะรู้สึกว่าอยากลองอ่านนิยายดูสักครั้ง จำไม่ได้เลยว่าอ่านนิยายครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ หนังสืออยู่กับตัวแล้วแต่ตั๋วหนังยังไม่ได้ซื้อ เพราะหนังไม่ได้ฮิตมาก โรงฉายเลยไม่เยอะ ต้องดั้นด้นไปดูในห้างที่ห่างไกลจากบ้าน

หนังสือสั่งซื้อที่นี่ https://shope.ee/8AA6YrXUOu

01

เหตุผลหนึ่งที่ซื้อหนังสืออ่านก็เพราะว่าอยากอ่านนิยาย และเคยได้คุยกับลูกเรื่องการอ่านหนังสือเทียบกับการดูหนัง เพราะลูกผมอ่านหนังสือแฮรี่พอตเตอร์อย่างติดหนึบ พอลองให้เขาได้ดูหนัง เขาก็บอกว่า หนังไม่ละเอียด หนังสือละเอียดกว่ามาก ผมหาหนังแฮรี่พอตเตอร์ให้เขา 7 ภาค เขาดูไปภาคเดียวแล้วไม่ดูอีกเลย แสดงว่าหนังสือคงละเอียดกว่ามากจริงๆ จนทำให้หนังไม่น่าสนใจ สำหรับลูกผมกับเรื่องแฮรี่พ็อตเตอร์

Screenshot 2567-04-22 at 21.53.24

หลังจากดูหนัง

เนื้อหาดูงงๆนิดหน่อย แต่อาศัยประสบการณ์ที่อยู่มาจนหัวเริ่มหงอก ตีความและอนุมานเอา ก็พอจะเข้าใจเนื้อเรื่องบ้าง เรื่องนี้เฉียดการถ่ายรูปไปนิดหน่อยให้พอมีรสชาติ เนื้อหาเป็นเรื่องของชีวิตรักของพระเอกที่เกี่ยวข้องกับแฟนสองคน คนเก่าเมื่อหลายปีก่อน และคนปัจจุบันที่กำลังจะแต่งงานกัน วิวในหนังก็พอมีให้ดูตามตัวอย่างหนัง ไม่ได้สวยตาแตกอย่างที่คาดหวัง และดูแล้วไม่ต้องใช้วิวเหล่านั้นก็ได้ แต่ถ้าเราไม่ได้สนใจทิวทัศน์หรือภาพแนวท่องเที่ยวธรรมชาติ แนวเนชันแนลจีโอกราฟิค แต่สนใจภาพถ่ายผู้คน บรรยากาศรอบตัวคน เราก็พอจะใช้หนังเรื่องนี้เป็นหนังรวมภาพสวยได้ คนหัดถ่ายภาพใช้หนังเรื่องนี้เป็นแนวทางการเรียนรู้ได้ จะว่าไป ภาพที่ปรากฏให้เห็นมันก็คล้ายๆจะเป็นภาพแนวสตรีทที่มาในโทนอบอุ่น ละมุน โรแมนติค องค์ประกอบภาพส่วนมากจะเรียบง่ายตรงไปตรงมา แต่ความเรียบง่ายนี่แหละที่ยากที่สุดในการถ่ายภาพ เพราะความเรียบง่ายนั้นดูรู้เรื่องและสื่อสารได้ทรงพลัง

หลังจากอ่านหนังสือ

พอดูหนังจบแล้ว อีกสองวันก็ลองอ่านหนังสือดู ใช้เวลาหลายวันอยู่เพราะว่าอ่านนานๆก็ง่วง เนื้อหาในหนังสือค่อนข้างช้า พรรณาเยอะ เนื้อหาต่างๆในหนังสือเยอะกว่าในหนังมาก และเนื้อหาก็สลับไปสลับมาชวนให้งง ต้องใช้สมาธินิดหน่อยที่จะลำดับเหตุการณ์ต่างๆเอง ซึ่งการสลับช่วงเวลาในหนังก็ทำแบบนี้แหละ อยู่ๆก็ตัดไปอดีต อยู่ๆก็เป็นปัจจุบัน จนบางครั้งในหนัง มีฉากที่พระเอกวิ่ง เราไม่รู้เลยว่าวิ่งในอดีต หรือ วิ่งในปัจจุบัน เรื่องราวต่างๆ บุคลิกตัวละคร และเนื้อหาบางส่วนชวนคิดลึก มีบทบรรยายเหมือนเป็นหนังสือโป๊เลย ผมแปลกใจอยู่ แต่ก็ไม่แน่ใจว่า มันเป็นเรื่องปกติของเลิฟซีนที่อยู่ในหนังสือหรือเปล่า เพราะไม่เคยอ่านนิยายรักมาก่อน

1712137683_April Come She Will-030424-1 (1)

สรุปเอง

รู้สึกว่า การอ่านหนังสือคือสิ่งที่จะได้อรรถรสมากที่สุด ส่วนหนังที่เข้าฉายก็เหมือนเป็นการเซอร์วิสคนอ่าน หนังเป็นเหมือนการทำภาพหน้าตาพระเอกนางเอกและตัวละครอื่นๆให้เห็นเป็นรูปธรรม แสดงสถานที่ต่างๆในจินตนาการ เหมือนเป็นนิทรรศการโชว์ภาพในหัวคนแต่งนิยาย มันเป็นตัวขยายรายละเอียดของหนังสือ ถ้าเราดูแค่ส่วนขยายหรือดูแค่ตัวหนังโดยไม่อ่านหนังสือเลย เราก็จะไม่ได้อรรถรสที่แท้จริง เพราะหนังข้ามรายละเอียดไปเยอะมาก เหมือนที่ผมเกิดความรู้สึกอิหยังวะตอนที่เดินออกจากโรงหนัง มันเหมือนไม่ได้ซึมซับอะไรจากหนังเลย เหมือนเคี้ยวอาหารแล้วไม่ได้กลืนยังไงอย่างงั้น แนะนำให้ไปอ่านหนังสือก่อน และเมื่ออ่านจบแล้ว ก็ลองแวะไปดูหนังอีกที เพื่อขยายรายละเอียดของหนังสือ

หนังสือสั่งซื้อที่นี่ https://shope.ee/8AA6YrXUOu

ลองกาแฟดริป สตาร์บัค starbuck origami

IMG_20240421_105537

เช้าวันอาทิตย์มีภารกิจไปส่งลูกเรียนพิเศษที่ห้างมาบุญครอง ห้างแห่งนี้เป็นห้างอายุเยอะแล้ว สมัยก่อนก็คนเยอะมาก หลังๆมีห้างเกิดใหม่อื่นๆมาแบ่งลูกค้าไป มาบุญครองก็ค่อยๆกลายเป็นแหล่งเรียนพิเศษ มีติวเตอร์มาเช่าพื้นที่ชั้น6 จำนวนมาก น่าจะเรียกว่าเป็น Education Hub ของกรุงเทพได้เลย

20240428105107_IMG_2021

ที่ชั้นสองมีห้าง Donki มาเปิดทำการ เป็นซุปเปอร์มาเก็ตของญี่ปุ่นที่มีสินค้าญี่ปุ่นหลากหลายมาก กาแฟสตาร์บัคแบบดริปก็มีขาย 1 กล่องมีกาแฟดริป 5 ชิ้น ผมสนใจตรงคำว่า origami นี่แหละ แต่ก็แปลกใจตรงข้างกล่องที่มีตัวหนังสือภาษาไทยด้วย

20240421134933_IMG_1977

ต้องดริปด้วยน้ำร้อน ปริมาณ 140 ml จริงๆก็แค่กะประมาณเอาก็ได้ รสชาติก็เป็นกาแฟดำ รสขมปกติ ไม่ได้มีความเปรี้ยวหรือผสมกลิ่นผลไม้ ลักษณะโครงสร้างกระดาษแบบ Origami ทำให้ซองดริปใช้งานง่าย สามารถแกะด้านบนของซองแล้วจัดวางบนแก้วได้ทันที สิ่งที่ดูดีก็คือ ตัวถุงกาแฟจะลอยอยู่เหนือแก้ว แตกต่างจากถุงดริปยี่ห้ออื่นที่พบบ่อยๆ ยี่ห้ออื่นที่ว่าก็คือ ถุงดริปจะมีการจมหรือหย่อนอยู่ในแก้ว ถ้าเราใช้แก้วไม่ลึก การดริปถุงกาแฟก็จะจมน้ำในแก้ว มันดูแล้วเหมือนออกแบบยังไม่จบ ทำให้ถุงดริปยี่ห้อทั่วไปจะต้องเลือกใช้กับแก้วทรงสูงเท่านั้น

20240421134625_IMG_1971

ส่วนถุงดริปแบบ Origami ก็จะยกตัวถุงลอยอยู่เหนือแก้ว ทำให้เราไม่ต้องใช้แก้วทรงสูงก็ได้ แต่ผมก็มีแก้วประจำตัวเป็นแก้วทรงสูงไว้กินกาแฟ แก้วยี่ห้อ pantone เป็นแก้วที่สวยและจุกาแฟได้เยอะ ก็เลยเอามาเป็นนายแบบในการดริปกาแฟจากสตาร์บัคตัวนี้

IMG_20240421_195544

ซ้ายคือถุงดริปหรือซองดริปกาแฟทั่วไปที่นิยมทำขาย ส่วนทางขวาก็เป็นถุงดริปกาแฟของสตาร์บัคโอริกามิ

อยากลองชิมก็ลองแวะซื้อดู หรือ ซื้อออนไลน์ในลิงค์นี้ก็ได้ คลิกได้เลย

เปลี่ยนแบตเตอรี่ suzuki swift หลักกิโล 156956

เปลี่ยนแบตเตอรี่ suzuki swift หลักกิโล 156956

ซูซูกิสวิฟท์หรือ swift2012 เป็นรถที่ใช้งานมาเกิน 10 ปีแล้ว หลักกิโลขึ้นไปถึง 156956 กม. มีอาการสตาร์ทนานกว่าปกติมาเกือบเดือน แม้ว่าจะขับรถทุกวัน แต่บางวันที่กดปุ่มสตาร์ทก็เหมือนแบตอ่อน ทำให้ค่อนข้างมั่นใจว่าแบตเริ่มเสื่อมแล้ว แต่ก็ยังสตาร์ทได้ทุกวันเลยรอเวลาว่างในวันหยุดยาวค่อยเปลี่ยนแบตเตอรี่

ตรวจสอบกับโพสท์เก่าๆที่เคยเปลี่ยนแบตเตอรี่คันนี้ ครั้งที่แล้วเปลี่ยนแบตตอนเดือน 6ปี2021 ซึ่งบนแบตเตอรี่ก็มีสติ๊กเกอร์ลงวันที่เอาไว้ นับเวลาดูก็เท่ากับใช้งานมาประมาณ 2ปี กับ 10 เดือน ถือว่านานเกินค่าเฉลี่ย2ปีไปเยอะแล้ว ก็เลยโทรเรียกร้านแบตเตอรี่มาเปลี่ยนให้ที่บ้านเลย

IMG_1940

โทรเรียกร้านเดิม เบอร์เดิม ช่างใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาทีเท่านั้น เพิ่งรู้ว่าแบตเตอรี่ในปัจจุบันไม่ต้องประจุไฟที่ร้านแล้ว เพราะแบตมีไฟมาจากโรงงานเลย ทำให้สามารถยกมาเปลี่ยนได้ทันที แตกต่างไปจากสมัยก่อนที่จะต้องเติมน้ำกลั่นแล้วอัดไฟที่ร้านก่อนใช้

IMG_1952

ของเดิมเป็นแบตเตอรี่ยี่ห้อ Panasonic แต่ทางร้านแจ้งว่ายี่ห้อเดิมเลิกผลิตแล้ว ตอนนี้เป็นยี่ห้อ FB รุ่น S-46B24 กำลังไฟ 45Ah พอช่างยกมาเปลี่ยน ถอดของเก่ามาวางเทียบของใหม่ พบว่า เหมือนกันเป๊ะ เหมือนทุกมุม ตัวถังต่างๆเหมือนออกจากแม่พิมพ์เดียวกัน โรงงานเดียวกัน ช่างเล่าให้ฟังว่า แบตเตอรี่มันออกจากโรงงานเดียวกัน แปะป้ายหลายยี่ห้อแต่ข้างในเหมือนกัน

IMG_1944

ติดตั้งเข้าไปแทนของเก่า ตรวจเช็คไฟจากไดชาร์ทในรถว่าทำงานปกติ บนแบตตัวใหม่มีสติ๊กเกอร์ร้านติดพร้อมวันที่เปลี่ยน และช่างได้วัดค่า CCA ให้ดูด้วย เลยให้ลองวัดค่าของแบตเก่า และแบตใหม่ให้ดู ช่างบอกว่า CCA เยอะ ยิ่งดี ถ้า CCA ต่ำเกินไปจะสตาร์ทไม่ติด ซึ่งก็จะหมายถึงแบตเสื่อมด้วย

IMG_1948
IMG_1955

ค่า CCA ของแบตใหม่ แสดงผลไว้ 650 CCA Healthy 100% ตัวมิเตอร์วัดขึ้นคำว่า Good-Recharge

IMG_1954

ส่วนแบตเก่าวัดออกมาได้ 65 CCA Healthy 2% ขึ้นหน้าจอ Replace

ดูผลการวัดแล้วรู้สึกอยากได้มิเตอร์มาใช้งานบ้างเลย

Cr. บทความ Trevlyn Mayo Palframan

IMG_1290
dpp-footballป5-IMG_9025

ได้อ่านบทความของคุณแม่ต่างชาติท่านหนึ่ง
ซึ่งเขียนถึงเหตุผลที่เธอทุ่มเทเงินทองและเวลามากมาย
เพื่อส่งลูกเรียนกีฬา
รู้สึกประทับใจกับแนวคิดของคุณแม่ท่านนี้จังเลย
จึงอยากจะแปลเพื่อนำมาแชร์กันนะคะ
.
เพื่อนคนหนึ่งของฉันถามว่า
“ทำไมเธอจึงยอมจ่ายเงินตั้งมากมายเพื่อให้ลูกเล่นกีฬา”
อืม มันก็จริง ฉันยอมรับ
แต่ฉันไม่ได้จ่ายเงินเพื่อให้ลูกเล่นกีฬาหรอกนะ
จริงๆ ฉันไม่ได้ให้ความสนใจในกีฬาที่เด็กๆ เล่นเท่าไหร่นักหรอก
อ้าว แล้วถ้าฉันไม่ได้จ่ายเพื่อกีฬา แล้วฉันจ่ายเงินเพื่ออะไรกันล่ะ
.
ฉันจ่ายเพื่อช่วงเวลาที่ลูกจะได้รู้สึกถึงความเหน็ดเหนื่อยจนอยากจะเลิกทำ แต่เขาก็ไม่ล้มเลิก
.
ฉันจ่ายเพื่อวันเวลาที่ลูกๆ ของฉันกลับมาจากโรงเรียนด้วยความเหน็ดเหนื่อยเกินกว่าจะไปซ้อมกีฬา แต่พวกเขาก็ยังไปอยู่ดี
.
ฉันจ่ายเพื่อที่ลูกของฉันจะได้มีวินัย focus และทุ่มเท
.
ฉันจ่ายเพื่อให้ลูกของฉันเรียนรู้ที่จะดูแลร่างกายของเขา,
อุปกรณ์กีฬาและสิ่งของต่างๆ ของเขาเอง
.
ฉันจ่ายเพื่อให้ลูกของฉันเรียนรู้ที่จะทำงานร่วมกับผู้อื่นและเป็นสมาชิกที่ดีของทีม เรียนรู้ที่จะแพ้และถ่อมตัวเมื่อชนะ
.
ฉันจ่ายเพื่อให้ลูกของฉันได้เรียนรู้ที่จะรับมือกับความผิดหวัง
เมื่อเขาไม่ได้ตำแหน่งที่เขาต้องการ
แต่เขาก็ยังคงกลับไปฝึกซ้อมวันแล้ววันเล่าอย่างดีที่สุด
.
ฉันจ่ายเพื่อให้ลูกของฉันได้เรียนรู้ที่จะพิชิตเป้าหมาย
.
ฉันจ่ายเพื่อให้ลูกของฉันได้เรียนรู้ไม่เพียงที่จะเคารพตัวเอง
แต่เคารพคู่แข่ง, โค้ชและเจ้าหน้าที่
.
ฉันจ่ายเพื่อให้ลูกของฉันได้เรียนรู้ว่า
ความสำเร็จหรือการเป็นแชมเปี้ยนนั้น
มันต้องแลกมาด้วยการทุ่มเททำงานหนัก
ฝึกฝนวันละหลายๆ ชั่วโมง ปีแล้วปีเล่า
พวกเขาจะเรียนรู้ว่ามันไม่มีความสำเร็จชั่วข้ามคืน
.
ฉันจ่ายเพื่อให้ลูกของฉันได้ภูมิใจในความสำเร็จเล็กๆ
และฝึกฝนเพื่อเป้าหมายใหญ่ของเขา
.
ฉันจ่ายเพื่อให้ลูกของฉันได้มีโอกาสสร้างมิตรภาพที่ยั่งยืน,
ความทรงจำที่มีค่า, และภูมิใจในความสำเร็จของพวกเขา
แบบที่ฉันก็รู้สึกเช่นกัน
.
ฉันจ่ายเพื่อให้ลูกของฉันได้ไปอยู่ในสนามแทนที่จะอยู่หน้าจอ
.
ฉันสามารถเขียนได้อีกยืดยาว แต่ขอสรุปสั้นๆ นะว่า
ฉันไม่ได้จ่ายเพื่อกีฬาหรอก
แต่ฉันจ่ายเพื่อ “โอกาส” ที่กีฬาสามารถให้กับลูกๆของฉันได้
กีฬาช่วยพัฒนาคุณลักษณะที่ดีรอบด้าน
ในการดำรงชีวิตอยู่เพื่อตัวเองและผู้อื่น
จากที่ฉันสังเกต ฉันคิดว่ามันเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากๆ ทีเดียว
Cr. บทความ Trevlyn Mayo Palframan

สนามบินดอนเมืองมีอาหารถูกขาย

ปกติการไปทำธุระที่สนามบิน ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางด้วยตัวเอง หรือไปส่งคนอื่น เรามักจะเจอกับค่าอาหารในสนามบินที่แพงมาก น้ำเปล่า 1 ขวดอาจจะราคา 50-100 บาทก็ได้ อาหารต่างๆที่เคยเห็นในห้างทั่วไป พอไปอยู่ในสนามบินก็ราคาสูงขึ้นหลายเท่าตัว เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องน่าเบื่อสำหรับคนเดินทาง แต่เราก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะร้านค้าเขาตั้งราคาแบบนั้น เราจะไปบังคับให้เขาขายถูกก็ทำไม่ได้

แต่ก็พอจะมีร้านอาหารขายถูกอยู่บ้าง ซึ่งได้เจอโดยบังเอิญ เพราะว่า ผมไปสนามบินไม่บ่อย เคยจ่ายราคาแพง และปีนี้ ก็ได้เห็นร้านราคาถูกตั้งอยู่ ก็เลยมาบันทึกไว้ว่าเจอร้านราคาประหยัดในสนามบิน ซึ่งสนามบินแห่งนี้คือ สนามบินดอนเมือง

ตำแหน่งร้านนี้ตั้งอยู่ในอาคาร 1 ซึ่งเป็นอาคารที่เชื่อมต่อกับอาคารจอดรถ. เมื่อเราจอดรถที่อาคารจอดรถที่รถไม่ค่อยว่างได้แล้ว เราก็ต้องขึ้นลิฟท์ไปที่ชั้น 3 ของอาคารจอดรถ แล้วเดินเข้าอาคาร 1 โดยที่ทางเข้านี้ก็จะมีร้านอาหารตั้งอยู่

IMG_20240413_081250
IMG_20240413_081238

สองร้านนี้ขายราคาไม่แพง ถือว่าถูกมากด้วยหากเทียบกับร้านทั่วไป และยังมีร้านกาแฟอยู่ข้างๆร้านนี้อีกด้วยที่ราคาไม่แพง ก็ลองแวะอุดหนุนกันได้