การเชื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ก็มีความสำคัญ บางครั้งแม้แต่การต่อสาย Aux ก็อาจจะยุ่งยากเกินไปสำหรับบางครอบครัว ถ้าลำโพงมีสาย usb ที่ต่อเข้าเครื่องคอมฯ ทำหน้าที่เป็นตัวจ่ายพลังงานและเป็น usb sound ไปด้วยในตัวก็จะทำให้เสียบสายเส้นเดียวได้ทั้งเสียงและพลังงานไฟฟ้ามาครบ ลำโพงแบบนี้ถือว่าออกแบบมาลดความยุ่งยากอย่างแท้จริง แต่เราก็ต้องไปค้นหาว่าลำโพง usb แบบนี้จะมีคุณภาพเสียงที่ดีเพียงพอไหม
ด้านซ้ายเป็นปุ่มกด ลักณะปุ่มเป็นสี่เหลี่ยมเล็กๆทรงสูง ดูโบราณมาก กดแล้วจะยุบลงไปอย่างชัดเจน ปุ่มลักษณะเหมือนกลไกแบบนี้ดูทนทานมาก เราสามารถกดปุ่ม play เพื่อสั่งงานเล่นเพลง มีปุ่มกดข้ามเพลง ปุ่มย้อนเพลง มีปุ่ม Pair กดปุ่มเพื่อจับคู่สัญญาณบลูทูธ มีปุ่ม Voice เพื่อกดใช้งานเรียก google assistant ขึ้นมาทำงาน ถ้าใช้คู่กับสมาร์ทโฟนค่าย apple ก็คงเป็นการเรียก SIRI ขึ้นมาแทน มีปุ่ม Duo เพื่อใช้เชื่อมต่อลำโพงสองตัวเข้าด้วยกันเพื่อให้แต่ละตัวทำงานร่วมกันส่งเสียงให้เป็นสเตอริโอ ที่บริเวณกลางของแผงควบคุมเป็นปุ่มหมุน 3 ปุ่ม ลักษณะปุ่มหมุนจะเป็นแบบอนาลอก เราหมุนไปจนสุดทางได้ หน้าที่แต่ละปุ่มประกอบด้วยปุ่ม Volume ปรับความดังของเสียง ปุ่มถัดมาเป็นตัวปรับเสียงแหลมหรือTreble ปุ่มถัดไปเป็นปุ่มปรับเสียง Bass ผ่านจากปุ่มไปจะเป็นไฟแสดงสถานะการทำงาน และสุดท้ายด้านขวาจะเป็นสวิตซ์คันโยกทำหน้าที่ power ปิด หรือเปิด ผมชอบปุ่มเปิดปิดแบบสวิตซ์โยกมาก เพราะมันทำให้เราสั่งปิด หรือ เปิดได้อย่างมั่นใจ และการสั่งการก็สามารถทำได้โดยไม่ต้องเหลือบมอง การเปิดหรือปิดลำโพงสามารถใช้นิ้วดันสวิตซ์ได้โดยง่าย ไม่เหมือนระบบกดปุ่มทั่วไป
ด้านหลังเป็นช่องเสียบไฟชาร์จ ให้รูเสียบแบบไฟ DC 2.8A 15V มีช่อง usb power ที่จ่ายไฟได้ 1000ma แต่ไม่ใช่ช่องที่จะอ่านไฟล์ใดๆ มีไว้จ่ายไฟเลี้ยงให้กับอุปกรณ์ที่ต้องเสียบชาร์จ ซึ่งคงเอาไว้ชาร์จโทรศัพท์หรือเครื่องเล่นเพลงพกพาเท่านั้น และอีกช่องจะเป็นช่อง Aux ขนาด 3.5มม. สำหรับต่อสัญญาณเสียงภายนอกเข้าเครื่อง
2 คุณภาพเสียงของ Mi ตัวนี้ยังไม่ดีกว่าลำโพงบลูทูธอย่าง JBL go ที่ให้เสียงได้ใหญ่กว่า เบสชัดกว่า ลงลึกกว่า ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะค่าตัวของ JBL go แพงกว่ากันหลายเท่าตัว
3 ลำโพง Mi ตัวนี้หน้าตาน่ารัก ดูแล้วอยากพก อยากเอามาร้อยเชือกแล้วติดเป็นพวงกุญแจ ซึ่งในกล่องที่มากับลำโพงมีสายคล้องมาให้ด้วย เจตนาน่าจะเอาไว้คล้องเพื่อติดตัวเจ้าของ
ช่องเชื่อมต่อด้านหลังหลากหลาย เปิดโอกาสให้ Model 2 ถูกนำไปใช้ได้สนุกสนาน มันมี sub out เอาไว้ต่อซับวูฟเฟอร์ มี Aux เพื่อรับสัญญาณเพลงจากเครื่องเล่น หรือรับเสียงจากคอมพิวเตอร์ มีช่องหูฟังเพื่อฟังแบบไม่รบกวนใคร มี balance เพื่อปรับเสียงซ้ายขวาให้สมดุลย์ มีช่องต่อเสาอากาศภายนอกเพื่อเพิ่มคุณภาพการรับสัญญาณ มีช่องรับไฟเลี้ยงแบบ 12v dc สามารถใช้กับอแด๊ปเตอร์ได้ และช่องรับแบบ 220V ac หรือไฟบ้าน
คุณภาพการรับสัญญาณ fm อยู่ในเกณฑ์ดี ลูกบิทปรับคลื่นเป็นลักษณะการหมุนแบบทดรอบมีอัตราส่วนการหมุนอยู่ที่ 5:1 นี่ทำให้การเลือกคลื่นทำได้สะดวกแม่นยำมาก การเลือกสถานีที่จะฟังจะมีระยะหมุนที่กว้าง ทำให้การแยกแยะแต่ละสถานีค่อนข้างเด็ดขาด ความชัดเจนในการฟัง fm เทียบได้กับการฟังในรถยนต์ แต่ได้น้ำเสียงที่ไพเราะชวนฟังระดับเครื่องเสียงไฮเอนด์
ผมใช้ model 2 บนโต๊ะทำงาน ใช้เปิดเพลงเป็นหลัก ผมเชื่อว่าการเลือกใช้งานกับคอมพิวเตอร์ก็น่าจะดี เราจะได้ฟังเพลงผ่านคอมฯได้เพราะๆ ส่วนคนทำดนตรีหรือ งานตัดต่อวิดีโอก็เหมาะ หรือแม้แต่จะวางหน้า TV ใช้แทน sound bar ก็น่าสนใจ มันสามารถเปิดเพลงเสียงดังได้ ฟังเสียงคนจากลำโพงคู่นี้ถือเป็นงานเหมาะที่สุด มันเหมาะมากสำหรับคนชอบฟังข่าวและรายการสัมภาษณ์ต่างๆ
TEAC R1 เป็นเครื่องรับวิทยุที่มีลำโพงในตัว สามารถรับคลื่น FM และ AM ได้ ใช้พลังงานจากหม้อแปลง 12 โวลท์ และมีแบตเตอรี่ในตัวสามารถชาร์จไฟขณะใช้งานได้ ถ้าใช้พลังงานจากแบตเตอรี่จะใช้งานได้ประมาณ 7 ชั่วโมง สามารถต่อสัญญาณขาเข้าจากแหล่งโปรแกรมอื่นๆได้ทางช่อง Aux มีวงจรขยายในตัว สามารถเปิดใช้งานได้ค่อนข้างดังในห้องทำงานทั่วไป หรือในห้องนอนก็กำลังเหมาะสม
ด้านบนตัวเครื่องมีปุ่มอยู่ 4 ปุ่มดังนี้ ซ้ายสุดเป็นปุ่มเปิดปิดและทำหน้าที่เลือกรับคลื่น FM AM และ เลือกฟังช่องสัญญาณขาเข้า Aux ปุ่มที่สองจากซ้ายเป็นปุ่มปรับเสียง Bass ถ้าบิดไว้ที่ตำแหน่งตรงกลางจะมีคลิกหยุดเป็นตำแหน่ง Flat ส่วนปุ่มที่สามเป็นปุ่มปรับเสียงสูงหรือ Treble มีตำแหน่งกลางเป็น Flat เช่นกัน ปุ่มสุดท้ายหรือทางขวาเป็นปุ่มกลมขนาดใหญ่ที่สุดทำหน้าที่ปรับความดังของเสียง ใต้ปุ่มซ้ายจะมีหลอดไฟแสดงสถานะการทำงาน ตอนเปิดจะติดสว่างเป็นหลอดไฟสีน้ำเงิน ตอนปิดถ้าเสียบหม้อแปลงไฟไว้แล้วเครื่องกำลังทำการชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่อยู่หลอดไฟดวงนี้จะกระพริบตลอดเวลา และจะดับไปเองเมื่อแบตเตอรี่เต็ม
ด้านหลังมีช่องสำหรับเสียบสายต่างๆ และมีช่องระบายอากาศสำหรับลำโพงภายในด้วย นั่นก็หมายความว่าเครื่องเล่นเครื่องนี้เป็นลำโพงชนิดตู้เปิด เดาว่าภายในใช้ดอกลำโพงดอกเดียวทำงานเป็นแบบ Full range คือส่งเสียงทุกย่านความถี่ด้วยดอกลำโพงเพียงดอกเดียว อาศัยช่องระบายอากาศเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในย่านเสียงเบส ตรงกลางเครื่องด้านหลังเป็นช่องเสียบสายอากาศ ซึ่งมีแถมมาให้ในกล่องด้วย
ถัดลงมาเป็นช่องต่อสัญญาณขาเข้า Aux in ซึ่งแถมสาย mini 3.5mm สองหัวมาให้ด้วยเช่นกัน ช่องถัดลงมาเป็นช่องเสียบหูฟัง สามารถใช้งานกับหูฟังทั่วไปได้ หมายความว่าเราสามารถใช้เครื่องเล่นเครื่องนี้เป็นแอมป์ขยายสัญญาณเสียงให้กับหูฟังที่เราต้องการได้ ช่องด้านล่างสุดเป็นช่องเสียบหม้อแปลงไฟ หม้อแปลงที่แถมมาให้เป็นแบบแปลงไฟ 220v แปลงเป็น 12V คิดว่าถ้านำ TEAC R1 ไปเสียบกับไฟในรถยนต์ก็คงสะดวกดีเพราะแรงดันไฟตรงกัน ด้านขวาเหนือช่องระบายอากาศเป็นเสาอากาศแบบชัก การชักเสาอากาศยืดขึ้นมาจะช่วยให้รับคลื่นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น มีผลมากในการใช้งานที่อยู่ในตึกอาคารต่างๆ ซึ่งคลื่นวิทยุจะรับค่อนข้างยาก เสาชักในตัวทำงานได้ดีเยี่ยม แทบไม่พลาดการรับคลื่นเลย จะมีเพียงบางสถานีเท่านั้นที่เสียงค่อนข้างเบา หรือมีการทับซ้อนกันบ้างเนื่องจากคลื่นวิทยุชุมชนในกรุงเทพค่อนข้างจะถี่ พาลเบียดคลื่นหลักไปบ้างก็มี