การถ่ายภาพด้วยฟิล์มในยุคดิจิทัลยังเป็นสิ่งที่มีลมหายใจอยู่ เมื่อก่อนในวันที่เป็นยุคทองของฟิล์ม เราถ่ายภาพ แล้วส่งล้างอัด แล้วก็ได้ภาพมาดูเป็นเล่ม มันสะดวกมากสำหรับฟิล์มสี ส่วนฟิล์มขาวดำก็ต้องล้างฟิล์มแล้วสั่งอัดภาพ แต่การอัดภาพด้วยร้านถ่ายภาพสีทั่วไป ภาพสีขาวดำก็จะออกมาดูไม่น่ามอง ภาพขาวดำที่ีสวยก็ต้องเป็นการอัดภาพลงบนกระดาษขาวดำแท้ๆเท่านั้น
แต่บางคนก็ไม่สามารถอัดภาพได้เอง ต้องอาศัยวิธีสแกนภาพแล้วดูในคอมพิวเตอร์ หรือ ดูในมือถือแทนโดยไม่ต้องอัดบนกระดาษจริง ยิ่งยุคนี้เป็นยุคโซเชียลเน็ตเวิร์ค อยากมีภาพเป็นไฟล์เพื่อส่ง เพื่อแชร์ให้เพื่อนดูกันทั้งนั้น การเอาภาพจากฟิล์มขาวดำก็ต้องใช้วิธี สแกน ร้านถ่ายภาพทั่วไปก็มีบริการรับสแกน แต่ค่าใช้จ่ายก็แพงขึ้นกว่าเดิม ไหนๆเราก็มีกล้องดิจิทัลกันอยู่แล้ว ก็ลองใช้อุปกรณ์ของเราสแกนฟิล์มเลยดีกว่า ซึ่งกล้องดิจิทัลที่มีเลนส์มาโครหรือเลนส์ถ่ายใกล้ๆได้จะสามารถนำมาใช้สแกนฟิล์มได้ วิธีนี้ ประหยัด ไม่เสียเงินซักบาท แต่อาจเสียเงินซื้อเลนส์มาโครแทน
ให้จัดการเซ็ทอัพอุปกรณ์ตามนี้ ใช้กล่องพลาสติกขนาดใหญ่ หรือ เล็กก็ได้ แต่ในภาพของผมจะใช้กล่องใหญ่เพราะตั้งใจจะใช้ถ่ายฟิล์มทั้งม้วนเลย โดยการเอากล่องขาวขุ่นมาวางพื้น แล้วเอาฟิล์มบางบนกล่อง หาของทับฟิล์มให้เรียบแนบไปกับกล่อง กล่องขาวขุ่นนี้ผมซื้อจากร้านขายอุปกรณ์แต่งบ้าน มันถูกขายเป็นถังขยะสีขาว ผมเห็นแล้วก็ถูกใจเลยสอยมาใช้ ส่วนแสงสว่างที่ส่องในกล่อง ผมใช้แฟลชเก่าๆตัวนึงที่ทำงานได้ แล้วต่อชุดส่งสัญญาณแฟลชไร้สาย หรือ ไวเลสทริกเกอร์ โดยตัวส่งสัญญาณจะเสียบอยู่กับกล้องถ่ายภาพ ตัวรับสัญญาณจะต่อกับแฟลช เมื่อเรากดถ่ายภาพ แสงแฟลชก็จะทำงาน ส่งผลให้กล่องเรืองแสง
ดูใกล้ๆก็จะเป็นแบบนี้ เราถ่ายภาพฟิล์มขาวดำด้วยกล้องดิจิทัลโดยตรงได้เลย ภาพที่ได้ก็จะเป็นภาพแบบที่ตาเห็น คือ เป็นภาพดูไม่ค่อยรูัเรื่อง สีสันก็เป็นแบบตรงกันข้าม หากเราจะสแกนภาพจากฟิล์มแค่บางภาพ เราก็ถอดฟิล์มจากซองมาวางบนกล่อง แล้วใช้เลนส์มาโครถ่ายภาพซะเลย
ถ้าเราจะสแกนฟิล์มขาวดำทั้งม้วน โดยให้เรียงตัวสวยๆเหมือนภาพ คอนแท็คปริ๊นท์ หรือcontact print ก็ใช้ใช้วิธี วางซองฟิล์มทั้งซองบนกล่องขาวขุ่นนี้เลย นี่คือเหตุผลที่ผมเลือกใช้กล่องขนาดใหญ่ เพราะต้องการถ่ายภาพฟิล์มทั้งม้วน ซึ่งใช้พื้นที่ใหญ่พอสมควร กล่องใหญ่ก็จะได้เปรียบคือทำงานคอนแท็คปริ๊นท์ได้นั่นเอง
ภาพฟิล์มทั้งม้วนที่ถ่ายด้วยกล่องไฟจะเป็นแบบนี้ เมื่อถ่ายภาพได้แล้ว ก็เอาภาพ jpg ที่ได้มา ไปปรับค่าต่อในโฟโต้ช็อป โดยการสั่ง invert เพื่อกลับภาพจากดำเป็นขาว และ ขาวเป็นดำ และทำการปรับระดับสีดำ และสีขาวให้สมจริง เราก็จะได้ภาพสีปกติออกมา
แค่นี้เราก็ได้ภาพคอนแท็คปริ๊นท์ที่ดูคลาสิคมากออกมา เราสามารถปริ๊นท์ภาพนี้เก็บไว้เป็นภาพโชว์ได้เลย ขนาดภาพของคอนแท็คปริ๊นท์ในอดีตจะใหญ่เท่าจริง คือฟิล์มเรามาใหญ่แค่ไหน คอนแท็คปริ๊นท์แท้ๆก็จะใหญ่เท่านั้น
คราวนี้เราจะมาสแกนบางภาพที่เราต้องการบ้าง บางภาพที่เราต้องการนี้ก็อาจจะเป็นภาพที่เราตั้้งใจจะโพสท์หรือตั้งใจจะเอาไปอัดขยายให้ใหญ่ เราก็จะทำการถ่ายฟิล์มที่ต้องการแค่ภาพเดียว ซึ่งการถ่ายฟิล์มแค่ภาพเดียวเราจะต้องใช้เลนส์มาโคร เพื่อให้สามารถถ่ายภาพฟิล์ม 1 ภาพให้ใหญ่เกือบเต็มเฟรมของกล้องดิจิทัล
ภาพที่ถ่ายได้จากเลนส์มาโครจะทำให้เราได้ชิ้นฟิล์มค่อนข้างใหญ่ จริงๆเราสามารถใช้เลนส์มาโครระดับ 1:1 เพื่อถ่ายชิ้นฟิล์มได้ใหญ่กว่านี้ แต่ผมชอบภาพที่เห็นรูหนามเตยของฟิล์ม เพราะทำให้ภาพดูน่ามอง ดูเท่ห์กว่า ก็เลยถ่ายแบบให้เห็นขอบฟิล์มเยอะหน่อย จากนั้นก็เอาภาพมากลับสีด้วยคำสั่ง invert ในโปรแกรมโฟโต้ช็อป ซึ่งถ้าใครถนัดโปรแกรมอื่น หรือ ถนัดใช้ app ในมือถือ ก็แล้วแต่สะดวก เมื่อกลับสีแล้วก็จัดการปรับค่าดำ ค่าขาว ในภาพให้ดูสมจริง ดูเป็นภาพขาวดำปกติ
ออกมาได้แบบนี้เลย ภาพลูกชาย วันแรกที่เกิด ฟิล์ม lucky กล้องไลก้า minilux ล้างฟิล์มเอง สแกนเอง ภูมิใจเอง
Pingback: รีวิว leica minilux | Pockethifi's Blog